โควิดทำพิษ หนุ่มปล้นทองกลางห้างดัง

โควิดทำพิษ หนุ่มปล้นทองกลางห้างดัง วันที่ 2 พฤษภาคม 2564 เมื่อเวลา 15:40 น.

พบโจรออกชิงทองห้างดัง เมืองพิษณุโลกโกยไป 2 เส้นหนัก 7 บาท ซึ่งเป็นการบุกเดี่ยวชิงทองห้างทองหวังโต๊ะกังเยาวราช ภายในห้างดังกลางเมืองพิษณุโลก โดยกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพคนร้ายได้ชัดเจนคาดว่าใช้เวลาต้องจับได้

ร้อยตำรวจเอกธเนศ วงศ์ปริง รองสว. สอบสวนสภ. เมืองพิษณุโลก รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีเหตุคนร้ายก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์เป็นสร้อยคอทองคำหนักรวม 7 บาท ที่ห้างทองหวังโต๊ะกังเยาวราช บริเวณชั้น 1 ภายในห้างเทสโก้โลตัสพิษณุโลก ถนนมิตรภาพ ตำบลอรัญญิก อำเภอเมือง พิษณุโลก

เมื่อไปตรวจสอบพร้อมพันตำรวจเอกภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผู้กำกับการสภ. เมืองพิษณุโลก ตำรวจชุดงานป้องกันและปราบปรามและตำรวจชุดสืบสวน หลังจากสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นอายุประมาณ 30 ปีสูงประมาณ 170 เซนติเมตร สวมเสื้อแขนยาวแบบมีฮู้ดสีน้ำตาล ใส่กางเกงยีนส์สวม รองเท้าผ้าใบสีดำ ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า คลิก สีส้ม สวมหมวกกันน็อคเต็มใบสีดำ

คนร้ายขับขี่รถหนีออกไปทางถนนมิตรภาพ มุ่งหน้าไปทางสี่แยกโคกช้างและสี่แยกอินโดจีน ตำรวจถึงวิทยุให้ชุดสายตรวจรถจักรยานยนต์ช่วยกันสกัดจับตามเส้นทาง รวมทั้งเส้นทางยูเทิร์นกลับเข้าตัวเมืองพิษณุโลกด้วย

วิธีการของคนร้ายคือคนร้ายทำทีมาขอดูสร้อยทองคำกับพนักงาน ระหว่างที่เลือกสร้อยคอทองคำอยู่คาดว่าคนร้ายเห็นพนักงานเผลอ จึงคว้าสร้อยคอทองคำลายหวายซีดี หนัก 5 บาท 1 เส้นและสร้อยคอทองคำลายกระดูกมังกรเหลี่ยมหนัก 2 บาทมูลค่า 183,050 บาทแล้ววิ่งหลบหนีไป

ซึ่งกล้องวงจรปิดของทางห้างสามารถจับภาพคนร้ายและเห็นลักษณะรูปพรรณชัดเจน เบื้องต้นได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ หาเบาะแสเกี่ยวกับคนร้ายเพิ่มเติม เพื่อจะได้ติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว

ต่อมาตำรวจกลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 ได้มาตรวจที่เกิดเหตุและเก็บรอยนิ้วมือแฝงที่คาดว่าจะเป็นลายนิ้วมือของคนร้าย ประกอบสำนวนคดีด้านพนักงานประจำห้างทั้ง 2 คน ทองเปิดเผยว่าคนร้ายที่ก่อเหตุมาขอดูสร้อยคอทองคำรวมทั้งหมด 3 ครั้ง ก่อนก่อเหตุ ท่าทางคนร้ายดูมีพิรุธ พูดไป ปาดเหงื่อไป และทำทีโทรศัพท์ไปด้วยลักษณะเหมือนปรึกษาเพื่อน

ทำให้พนักงานเข้าใจว่าจะซื้อไปงานแต่งงาน ตอนแรกขอดูเส้นหนัก 10 บาทแล้วก็เปลี่ยนไปขอดูน้ำหนักทองลดลงเป็นหนัก 8 บาทและเป็น 7 บาทแล้วยืนดูสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาทและหลอกให้พนักงานหันไปหยิบสร้อยเส้นอื่นมาให้ดู คนร้ายจึงกระชากสร้อยคอทองคำที่อยู่ในมือพนักงานอีกคนไปแล้ววิ่งหลบหนีไปพร้อมสร้อยคอทองคำ 2 เส้น

พ่อค้าที่ขายของอยู่บริเวณใกล้เคียงได้ยินเสียงตะโกนร้องให้ช่วย พวกตนพยายามจับคนร้ายแต่เอาไม่อยู่ เพราะคนร้ายดูท่าทางแข็งแรงพอสมควร พวกตนอยากให้คนร้ายเอาสร้อยคอทองคำมาคืนเพราะพวกตนต้องเดือดร้อนแน่ แม้ว่าจะเห็นใจคนร้ายเข้าตาจนทำให้ก่อเหตุเช่นนี้ก็ตามอยากให้เอาสร้อยคอทองคำนี้นำมาคืนให้กับทางร้านด้วย

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ : QuotesAboutSmile และ Keywordsfun