จากกรณีเจ้าหน้าที่เรียก นายไชย์พล วิภาพ หรือ ลุงพล ผู้ต้องหาในคดีน้องชมพู่ ให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวจริง โดยระบุสถานที่ กองบังคับกาตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร ในเวลา 15.40 เมื่อวานที่ผ่านมา (26 ส.ค. 64) นายไชย์พล วิภา พร้อม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความส่วนตัว ได้เดินทางมาเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในฐานความผิดข้อหา ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288
โดยเจ้าตัวให้การปฏิเสธ ก่อนเดินทางกลับโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด สำหรับคดีนี้ พนักงานอัยการพิจารณาแล้ว เห็นว่า เพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปโดยสอดคล้องกับพยานหลักฐานและพฤติการณ์ทั้งหลายที่ปรากฏในสำนวนการสอบสวน จึงให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเพิ่มเติม
โดยให้ แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมนายไชย์พลในข้อหาความผิด ฐานฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา โดยให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม และให้สอบคำให้การของผู้ต้องหาไว้เป็นพยานหลักฐาน เพื่อประกอบไว้ในสำนวนการสอบสวนต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีการแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีกับ นายไชย์พล ไปแล้ว 3 ข้อหา คือ
- พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันควร
- ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกินเก้าปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย
- กระทำการใด ๆ แก่ศพ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป และแจ้งเพิ่มอีกวันนี้คือข้อหาความผิด ฐานฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288
ที่สำนักงานอัยการสูงสุด นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงคดีน้องชมพู่ว่า คดีนี้เป็นคดีสำคัญ สภาพคดีมีความยุ่งยากซับซ้อน สื่อมวลชนนำเสนอข่าวต่อเนื่องและประชาชนทั่วประเทศให้ความสนใจ และวันนี้เป็นวันครบขังที่ 7 หรือ 84 วัน ซึ่งเป็นวันครบขังครั้งสุดท้ายที่นายไชย์พล วิภา ตกเป็นจำเลย พนักงานอัยการผู้รับผิดชอบยังมีคำสั่งทางคดีไม่ได้
เพราะต้องรอผลการสอบสวนจากพนักงานสอบสวนในข้อหาล่าสุดที่ผู้ต้องหาเพิ่งเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม แม้จะยังสั่งฟ้องไม่ได้ แต่คดีไม่มีความเสียหายใดๆ เพราะผู้ต้องหาอยู่ในความควบคุมของศาลจังหวัดมุกดาหารแล้ว เนื่องจากอัยการสั่งฟ้องไปแล้ว 3 คดี หากอัยการสั่งฟ้องคดีอื่นๆที่เหลือ สามารถยื่นฟ้องต่อศาลได้เลย ไม่ต้องส่งตัวไปพร้อมคำฟ้อง เพราะศาลสั่งเบิกตัวมาจาก 3 คดีที่ฟ้องไปแล้วได้ทันที
สำหรับคดีที่พนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้อง และยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดมุกดาหารไปแล้ว 3 คดี ประกอบด้วย คดีที่ 1 ข้อหาทำไม้หวงห้ามในเขตป่าสงวนแห่งชาติฯ (ตัดต้นไม้เพื่อสร้างพญานาค) ยื่นฟ้องผู้ต้องหาไปเมื่อวันที่ 21 พ.ค.64 ในชั้นศาลจำเลยให้การปฏิเสธ ศาลจังหวัดมุกดาหารนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 19 ต.ค.64 เวลา 09.00 น.
คดีที่ 2 ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายฯ (แย่งไมค์และผลักผู้สื่อข่าว) ยื่นฟ้องต่อศาลเมื่อวันที่ 23 ส.ค.64 ในชั้นศาลจำเลยให้การปฏิเสธ ศาลนัดพร้อมวันที่ 17 ก.ย.64 เวลา 09.00 น. คดีที่ 3 ข้อหาก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า อันเป็นการทำลายป่าฯ และร่วมกันทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติฯ ยื่นฟ้องไปเมื่อวันที่ 23 ส.ค.64 ในชั้นศาลจำเลยให้การปฏิเสธ ศาลนัดพร้อมในวันที่ 17 ก.ย.64 เวลา 09.00 น.
อ่านบทความก่อนหน้า 2 แบงก์ใหญ่แข่งปล่อยกู้บุคคล
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ QuotesAboutSmile และ Keywordsfun